จาริกธรรม บำเพ็ญบุญ ตามรอยบาทพระศาสดา ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล กำหนดการเดินทางวันที่ 16 – 26 กุมภาพันธ์ 2556 จัดพิเศษ...แด่คณะหลวงปู่ไม อินฺทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง จ.นครราชสีมา โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ชำนาญการในดินแดนพุทธภูมิเป็นผู้บรรยายพุทธประวัติ พร้อมการสวดมนต์และปฏิบัติจิตตภาวนา เพื่อบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดการเดินทาง
จาริกธรรม บำเพ็ญบุญ ตามรอยบาทพระศาสดา ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล
กำหนดการเดินทางวันที่ 16 – 26 กุมภาพันธ์ 2556
จัดพิเศษ...แด่คณะหลวงปู่ไม อินฺทสิริ
วัดป่าเขาภูหลวง จ.นครราชสีมา
โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
ที่ชำนาญการในดินแดนพุทธภูมิเป็นผู้บรรยายพุทธประวัติ
พร้อมการสวดมนต์และปฏิบัติจิตตภาวนา
เพื่อบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดการเดินทาง
.
....................................................................................................................
....................................................................................................................
พุทธคยา สถานที่แห่งการตรัสรู้ สถานที่ชุมนุมของนักปราชญ์ทั่วทุกมุมโลก
สารนาถ “ป่าอิสิปัตนมฤมคทายวัน” หรือสารนาถ สถานที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาแก่ปัจวัคคีย์
พาราณสี ล่องแม่น้ำคง “แม่น้ำแห่งการชำระบาป” การเผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคาสถานที่ไฟไม่เคยดับ 4,000
ปี
กุสินารา “สาลวโนทยาน” สถานที่แห่งการดับขันธปริพนิพพาน สักการะพระพุทธปรินิพพาน
“มกุฎพันธนเจดีย์” สถานที่ถวายพระเพลิง
ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล สถานที่แห่งการประสูติ
นมัสการรอยพระพุทธบาทที่ประทับลงยังโลกมนุษย์เป็นครั้งแรก
สาวัตถี
สถานที่ที่พระพุทธเจ้าจำพรรษานานที่สุด
ไพสาลี “วัดป่ามหาวัน”
สถานที่กำเนิดภิกษุณีสงฆ์
“ปาวาฬเจดีย์” สถานที่ทรงปลงพระชนมายุสังขารครั้งสุดท้ายก่อนปรินิพพาน
กำหนดการเดินทางวันที่ 16 – 26 กุมภาพันธ์ 2556
วันแรก กรุงเทพฯ –
กัลกัตตา
– พาราณสี วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์
2556
04:30 พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
เคาน์เตอร์เช็คอินระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ P
ประตูทางเข้าที่ 7-8 สายการบินเจ็ต แอร์เวย์ (JET
AIRWAYS) เช็คสัมภาระติดป้ายชื่อกระเป๋า และบัตรโดยสารก่อนขึ้นเครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ จาก คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระ และบัตรที่นั่งบนเครื่องบิน
06:50 ออกเดินทางสู่ เมืองกัลกัตตา
โดยสายการบินเจ็ต แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 65
เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง
07:50 เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัลกัตตา
หลังผ่านพิธีการตรวจลงตรา และศุลกากรแล้ว
บริการของธรรมจารี จัดรถโค้ชปรับอากาศรับท่านเดินทางสู่เมืองกัลกัตตา
ผ่านชมตัวเมืองกัลกัตต้า แวะชม อนุสาวรีย์วิคตอเรีย
(Victoria
Memorial) อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะของอังกฤษ
โดยอนุสาวรีย์ถูกสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ ตัวอาคารทำด้วยหินอ่อนทั้งหลัง หลังคา
ทำเป็นรูปโดม มีทั้งศิลปะของอังกฤษผสมกับของอินเดียอาคารหลังนี้
สูงใหญ่เด่นเป็นสง่า และเป็น
ที่เชิดชูของเมืองกัลกัตตา
11:00 เดินทางสู่สนามบินนานาชาติกัลกัตตา
15:25 ออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี
โดยสายการบินเจ็ต แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 2893
17:10 เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติพาราณสี หลังผ่านพิธีการตรวจลงตรา
และศุลกากรแล้ว
บริการของธรรมจารี จัดรถโค้ชปรับอากาศรับท่านเดินทางสู่เมืองพาราณสี
รัฐอุตรประเทศ
จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ วัดไทยสารนาถ
หรือเทียบเท่า
19:00 ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
จากนั้น พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สอง สารนาถ “ปฏิบัติธรรม” วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556
05:00 นำท่าน
ล่องเรือแม่น้ำคงคา ซึ่งชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์
เพราะไหลมาจากภูเขาไกรลาส บนสรวงสวรรค์ ตามหลักภูมิศาสตร์แม่น้ำนี้ไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย ประเทศเนปาล ชมพิธีบูชาพระอาทิตย์และการอาบน้ำล้างบาปของชาวฮินดูริมฝั่งแม่น้ำคงคาและพิธีการเผาศพ
ซึ่งมีมานานกว่า 4,000 ปี ได้เวลาพอสมควรนำท่านกลับสู่ที่พัก
08:00 ถวายภัตตาหารเช้า และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
11:00 นำท่านเข้าสู่ ธัมเมกขสถูป สถานที่พระองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์
ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ บำเพ็ญสมาธิภาวนา แล้วชมสถานที่สำคัญรอบๆบริเวณ
ธัมเมกขสถูป
ชม “ยะสะเจดีย์” สถานที่ยะสะกุลบุตรพบพระพุทธองค์ สักการะ
พระมูลคันธกุฏิ กุฏิที่พระพุทธองค์จำพรรษาครั้งแรกหลังจากตรัสรู้
แล้วชม สังฆาราม กว่า 1,000
หลัง
และชมหลักศิลาจารึกของ
พระเจ้าอโศกมหาราช อันเป็นหลักฐานสำคัญสื่อให้รู้ว่าเป็นสถานที่พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก
นำท่านสู่ สมาคมมหาโพธิ์ นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ มูลคันธกุฎี
ที่ท่านอนาคาริกธัมมปาละ สร้างไว้ให้พุทธศาสนิกชนทั่วโลก
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ สารนาถ
ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่เก่าแก่ และงดงามที่สุดในโลก
พระพุทธรูปองค์นี้ได้ส่งประกวดระดับโลก และชนะเลิศมาแล้วหลายครั้ง
17:00 ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าถวายวัดไทยสารนาถ
18:00 ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
จากนั้น พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม พาราณสี – สาวัตถี วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556
06:00 เดินทางสู่เมืองสาวัตถี
(ระยะทางประมาณ 290 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 7-8 ช.ม.)
08:00 ถวายภัตตาหารเช้า และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารระหว่าง
แบบปิกนิก
16:00 ถึง เมืองสาวัตถี
ชมคฤหาสน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี บ้านบิดาของท่านองคุลิมาล ชมสถานที่ธรณีสูบพระเทวทัตและนางจิญจมาณวิกา
ชมสถานที่พระพุทธองค์แสดง
ยมกปาฏิหาริย์ เป็นเนินดินสูงประมาณ 50 เมตร
ที่แห่งนี้พระพุทธองค์ทรงแสดงยมกปาฎิหารย์เพื่อโปรดประชาชนชาวสาวัตถีและข่มเจ้าลัทธิอื่นๆ
หลังจากนั้นทรงเสด็จไปประทับจำพรรษาที่ดาวดึงส์ เมื่อออกพรรษา
ทรงเสด็จลงจากสวรรค์ในวันเทโวโรหนะที่สังกัสสะนคร
จากนั้น นำท่านเยี่ยมชมวัดไทยสาวัตถี ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าถวายวัดไทยสารวัตถี
18:00 นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ณ วัดไทยสาวัตถี หรือเทียบเท่า
19:00 ถวายน้ำปานะ
/ รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
วันที่สี่ สาวัตถี – ลุมพินี (เนปาล) วันอังคารที่
19 กุมภาพันธ์ 2556
(โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย
เข้าสู่ประเทศเนปาล)
06:00 นำท่านเข้าสู่ วัดเชตวันมหาวิหาร ที่ซึ่งพระพุทธองค์ประทับจำพรรษานานถึง
19 พรรษา เป็นศูนย์กลาง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุด นมัสการพระคันธกุฎี
ฤดูร้อน ฤดูหนาวและฤดูฝน นมัสการ ธรรมศาลา ที่ใหญ่ที่สุด ธรรมสภา กุฏิพระอรหันต์ เช่น
พระโมคคัลลา พระสารีบุตร
พระสิวลี
พระอานนท์ พระราหุล พระองคุลิมาล พระมหากัสสปะ และอารามฝ่ายพระภิกษุที่เคย
จำพรรษาในครั้งพุทธกาล
นมัสการ “อานันทะโพธิ”
ต้นโพธิ์ ที่มีอายุยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า
และรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหาร
12:00 เดินทางสู่ ลุมพินี (ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5
ชั่วโมง)
นำท่านแวะเยี่ยมชมวัดไทยนวราชรัตนาราม
960 ชายแดน อินเดีย-เนปาล
18:00 นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ณ วัดไทยลุมพินี หรือเทียบเท่า
ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ
วัดไทย
วันที่ห้า ลุมพินี – กุสินารา วันพุธที่
20 กุมภาพันธ์ 2556
06:00 นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่ประสูติของพระพุทธองค์ ณ สวนลุมพินีวัน ในอดีตเป็นอุทยาน
ชมหินสลักภาพประสูติ นมัสการสถานรอยพระพุทธบาทที่ประทับลงมายังพื้นปฐพีเป็นครั้งแรก
ภายใน
วิหารมายาเทวี ชม สระโบกขรณี เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช ที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้ปักเสาหินไว้ เมื่อคราวเสด็จจาริกแสวงบุญบูชาสังเวชนียสถานทั่วชมพูทวีป
ตามคำยืนยันของพระโมคลีบุตรติสสเถระ
ว่าเป็นที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติจากพระครรภ์ของพระพุทธมารดา
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า
และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
12:00 เดินทางสู่ เมืองกุสินารา
สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ประทานปัจฉิมโอวาทและถวายพระเพลิง พระพุทธสรีระ
และการแบ่งแจกพระบรมสารีริกธาตุ
(ระยะทางประมาณ 270 ก.ม.
ใช้เวลาประมาณ 7-8 ช.ม.
แล้วแต่สภาพการจราจร)
19:00 ถึง กุสินารา เมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน
ปัจจุบันตั้งอยู่ ณ ตำบลกาเซีย เมืองโครักขปูร์
จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
หรือเทียบเท่า
ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ
วัดไทย
วันที่หก กุสินารา “ปฏิบัติธรรม” วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556
06:00 เดินทางสู่
สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน
สักการะ พระพุทธรูปปางปรินิพพาน
ซึ่งประดิษฐานอยู่ในมหาปรินิพพานวิหาร
เจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตะภาวนา
ชม สถานที่พระอานนท์เกาะสลักเพชรร้องไห้
ซากปรักหักพังของกุฎิ เจดีย์
ชมต้นสาละอันเป็นต้นไม้ที่พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์เสร็จ
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า
และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
13:00 นำท่านเข้าสู่
สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน สักการะ พระพุทธรูปปางปรินิพพานซึ่งประดิษฐานอยู่ในมหาปรินิพพานวิหาร
เจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตะภาวนา
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ มกุฎพันธนเจดีย์
สถานที่ถวายพระเพลิง
พระสรีระของพระพุทธเจ้าปัจจุบันเป็น
ซากเจดีย์ ทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาหลังการถวายพระเพลิงชาวบ้านเรียกว่า
รามภาร์ (Ramabhar)
ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าถวายวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
18:00 ถวายน้ำปานะ /
รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
วันที่เจ็ด กุสินารา – ไพสาลี วันศุกร์ที่
22 กุมภาพันธ์ 2556
06:00 เดินทางสู่ สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน
สักการะ พระพุทธรูปปางปรินิพพาน ซึ่งประดิษฐานอยู่ในมหาปรินิพพานวิหาร
เจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตะภาวนา อีกครั้ง
ชม สถานที่พระอานนท์เกาะสลักเพชรร้องไห้
ซากปรักหักพังของกุฎิ เจดีย์ ชมต้นสาละอันเป็นต้นไม้ที่พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์เสร็จ
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า
และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
12:00 นำท่านเดินทางสู่
เมืองไพสาลี (ระยะทางประมาณ 280
กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง)
เมืองหลวงของแคว้นวัชชี
สมัยพุทธกาลซึ่งพระพุทธองค์เสด็จมาโปรดชาวเมืองให้รอดพ้นจากโรคห่าที่มาของการสวดรัตนปริต
16:00 นมัสการซากสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ซึ่งเหล่ากษัตริย์วัชชีได้รับแบ่งมาหลังถวายพระเพลิงพุทธสรีระ 1 ใน 8 ส่วน
เมืองไพสาลียังปรากฏสระน้ำกว้างใหญ่ที่ใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ ลิจฉวี
และแนวกำแพงดิน วังโบราณที่หลงเหลืออยู่ นมัสการ วัดกูฏาศาลาป่ามหาวัน ซึ่งปรากฏสถูปทรง
โอคว่ำ และเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราชที่สมบูรณ์ที่สุด
ที่ยังปรากฏสิงโตหินบนยอดเสา
และวัดนี้ยังเป็นที่พระพุทธองค์ประทานพุทธานุญาตบวชพระนางปชาบดีโคตรมี
เป็นพระภิกษุณีรูปแรกของโลก นมัสการซาก วัดวาฬุการาม สถานที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่
2
ในสมัยพระเจ้ากาฬโศกแห่งเวสาลี เมื่อราว พ.ศ.100
จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ณ วัดไทยไวสาลี หรือเทียบเท่า
ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
20:00 ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าถวายวัดไทย
วันที่แปด ไพสาลี
– ราชคฤห์ – พุทธคยา วันเสาร์ที่
23 กุมภาพันธ์ 2556
07:00 เดินทางสู่เมืองราชคฤห์
(ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า และรับประทานอาหารเช้า
ณ ห้องอาหารระหว่างทาง แบบปิกนิก
11:00 ถึง เมืองราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธในอดีต
ที่มีพระเจ้าพิมพิสารครองเมือง ตั้งอยู่บน
หุบเขา มีภูเขา 5 ลูกล้อมรอบ คือ เวปุลละ,
เวการะ,
ปัณฑวะ,
อิสิคิริ และคิชกูฏ
นำท่านแวะชม นาลันทาเก่า (โอลนาลันทา)
ซากมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองโด่งดังมากที่สุดในโลก
มีพระนักศึกษาจำนวนหมื่น เมื่อราว พ.ศ.1700
ได้ถูกชาวมุสลิมรุกรานสังหารพระและคณาจารย์และเผาทำลายเสียสิ้น
ปัจจุบันเหลือไว้แต่ซากปรักหักพังปรากฏเป็นรูปฐานและผนังของอาคารยาวเหยียด ในบริเวณอันกว้างขวาง
และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ พระโมคคัลลาน์
พระสารีบุตร สักการะ “สถูปพระสารีบุตร” ที่บรรจุอัฐิธาตุของพระสารีบุตร
นำท่านสักการะ “หลวงพ่อดำ” ข้างนาลันทา
นับเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญองค์หนึ่งเพราะเป็นพระพุทธรูปที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่องค์ที่ไม่ถูกทำลาย
ชาวบ้านเรียกว่า เตลิยบาบา หรือหลวงพ่อน้ำมัน
จากนั้น นำท่านเข้าสู่ วัดเวฬุวันมหาวิหาร เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาที่พระเจ้าพิมพิสารทรง ยกพระราชอุทยานสวนไม้ไผ่ถวายเป็นที่ประทับแห่งแรกแด่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระสงฆ์สาวก
พุทธองค์ทรงประทับจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้แล้ว 6 พรรษา เจริญพระพุทธมนต์ เจริญสมาธิภาวนา ณ
อุโบสถสถานที่ประชุมพระสาวกอรหันต์ 1,250 รูป ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งเรียก
การประชุมนี้ว่า จาตุรงคสันนิบาต มูลเหตุแห่งพิธีมาฆบูชา
และพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาท
ปาติโมกข์แก่ภิกษุเหล่านั้น
นำท่านสู่ ตโปธาราม
สายน้ำร้อนที่ไหลมาจากภูเขาเวภาระ สถานที่ทำสังคายนา
เป็นจุดที่พระสงฆ์และประชาชนในสมัยพุทธกาลใช้เป้นที่สรงน้ำ อาบน้ำเสมอ
ปัจจุบันชาวฮินดูได้สร้างเป็นเทวาลัยครอบตโปธารามและดัดแปลงทางเดินของน้ำเสียใหม่
กลายเป็นการแบ่งชนชั้นในการอาบน้ำโดย
คนวรรณะสูงได้อาบส่วนบน
ส่วนวรรณะต่ำได้อาบข้างล่าง
16:00 นำท่านขึ้นเขาคิชฌกูฎ
การขึ้นเขาคิชฌกูฏ ลาดชันพอประมาณ ระยะทางโดยรวมประมาณ 750
เมตร
จะต้องเดินขึ้น
รถยนต์ไม่สามารถขี้นไปถึง ใช้เวลาประมาณ 20
นาที
สามารถขึ้นได้โดยการนั่งเสลี่ยง โปรดแจ้งหัวหน้าทัวร์
ระหว่างเดินทางขึ้นเขา นำท่านแวะชมสถานที่ที่พระเทวทัตต์กลิ้งก้อนหินใส่พระพุทธองค์ ถ้ำพระมหาโมคลานะ ถ้ำสุกรขาตา ที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์
ถึงยอดเขาคิชฌกูฎ นำท่าน ทำสมาธิภาวนา
ณ พระคันธกุฎิ ชมทิวทัศน์เมืองราชคฤห์จากพื้นสูง
ได้เวลาอันสมควรนำท่านลงจากยอดเขา แวะชม ซากชีวกัมพวัน “สวนมะม่วงของหมอชีวก” เป็นซากอารามของหมอชีวกชีวกโกมารภัจจ์
ยกสวนมะม่วงถวายในคราวที่พระเทวทัตต์ประทุษร้ายพระองค์ โดยกลิ้งหินลงใส่
พระพุทธองค์
ทำให้สะเก็ดหินกระเด็นถูกพระบาทของพระองค์จนห้อพระโลหิต
หมอชีวกโกมารภัจจ์ถวายการรักษาพยาบาล ณ อารามแห่งนี้
จากนั้น เดินทางกลับสู่ พุทธคยา (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
20:00 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ วัดไทยพุทธคยา หรือเทียบเท่า
จากนั้น ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
หรือเดินทางไปไหว้
พระมหาเจดีย์พุทธคยา ปฎิบัติสมาธิ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ (ปิด 21.00น.)
วันที่เก้า พุทธคยา วันอาทิตย์ที่
24 กุมภาพันธ์ 2556
06:00 นำท่านเดินทางสู่ภายในปริมณฑลต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา
และพระมหาเจดีย์ศรีพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า
กราบสักการะ
พระพุทธเมตตา พระพุทธปฏิมากรปางชนะมารอายุ 1,400 ปีเศษ
ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์ ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา
สักการะพระแท่นวัชรอาสน์
นมัสการสัตตมหาสถาน ที่สำคัญอันอยู่ใกล้เคียง ได้แก่
อนิมิสสะเจดีย์
รันตนฆะระเจดีย์ และรัตนจงกรมเจดีย์ เป็นต้น
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า
และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
13:00 เดินทางสู่ บ้านนางสุชาดา ธิดากุฎุมพี
แห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ผู้ถวายข้าวมธุปายาส
อันประณีตแด่พระมหาบรุษก่อนการตรัสรู้
อยู่ห่างจากฝั่งแม่น้ำเนรัญชราประมาณ 200 เมตร
ปัจจุบันเป็นโบราณสถานซากสถูปขนาดใหญ่
สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ชม
แม่น้ำเนรัญชรา สายน้ำที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานจิต
ลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อมข้าวมธุปายาสก่อนวันที่จะตรัสรู้หนึ่งวัน
นำท่านชม วัดชาวพุทธนานาชาติ ภายในบริเวณมณฑลพุทธคยา มีชาวพุทธจากนานาประเทศมาสร้างวัดตามสถาปัตยกรรมแห่งชาติของตนมากมาย
เช่น “วัดภูฐาน วัดญี่ปุ่น วัดทิเบต”
16:00 ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ วัดไทย
18:00 นำท่านเดินทางสู่ภายในปริมณฑลต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา
และพระมหาเจดีย์ศรีพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า อีกครั้ง
กราบสักการะ
พระพุทธเมตตา พระพุทธปฏิมากรปางชนะมารอายุ 1,400 ปีเศษ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์
ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา
สักการะพระแท่นวัชรอาสน์
นมัสการสัตตมหาสถาน ที่สำคัญอันอยู่ใกล้เคียง ได้แก่
อนิมิสสะเจดีย์
รันตนฆะระเจดีย์ และรัตนจงกรมเจดีย์ เป็นต้น
เจริญจิตตภาวนา
ด้วยการกระทำสมาธิถวายเป็นปฏิบัติบูชา (ปฏิบัติธรรมฟังเทศน์ตลอดคืน)
วันที่สิบ พุทธคยา – ปัตนะ – กัลกัตตา –
กรุงเทพฯ วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
06:00 นำคณะเดินทางกลับสู่ที่พัก
09:00 ถวายภัตตาหารเช้า
และรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
11:00 นำท่านเยี่ยมชมวัดไทยพุทธคยา
ร่วมกันทำบุญถวายผ้าป่าบำรุงพระอาราม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองปัตนะ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ
4 ชั่วโมง)
17:00 เดินทางถึงเมืองปัตนะ
ถวายน้ำปานะ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองปัตนะ
21:00 ออกเดินทางสู่เมืองกัลกัตตา
โดยสายการบินเจ็ต แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 7100
22:00 ถึงสนามบินนานาชาติเมืองกัลกัตตา
วันที่สิบเอ็ด กัลกัตตา
– กรุงเทพฯ วันอังคารที่
26 กุมภาพันธ์ 2556
01:30 ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเจ็ตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 66
05:40 เดินทางถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพฯ
เงื่อนไขการเดินทางและอัตราค่าบริการผู้ร่วมเดินทางขั้นต่ำ 15 ท่าน
ท่านละ 33,000 บาท
ท่านละ 33,000 บาท
ราคาทัวร์เปลี่ยนแปลง
จากการเพิ่มขึ้นของภาษีสนามบิน ประกันการเดินทาง และค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง
ที่ทางสายการบินมีการปรับเปลี่ยนและเรียกเก็บเพิ่ม
อัตรานี้รวม - ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ–กัลกัตต้า-พาราณสี
// ปัตนะ-กัลกัตต้า-กรุงเทพฯ
โดยสายการบินเจ็ต แอร์เวย์
- ค่าที่พักตามรายการ ค่าทิปขนกระเป๋า
- ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
พร้อมอาหารเสริมและของว่างระหว่างการเดินทาง
-รถปรับอากาศรับ–ส่งระหว่างสนามบินและโรงแรมและท่องเที่ยวตามรายการ
- ค่ารถสามล้อพาราณสี
(ล่องแม่น้ำคงคา)
-ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินทุกสนามบินตามรายการ
- ค่าธรรมเนียมเข้าพุทธสถาน และค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ
ตามรายการ
- หัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวกจากบริษัทธรรมจารีทัวร์
-ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอินเดีย-เนปาล
-วิทยากรพิเศษบรรยายระหว่างการเดินทาง
- ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ท่านละ 1,000,000 บาท
(ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด)
อัตรานี้ไม่รวม :ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น
โทรศัพท์, โทรสาร, ซักรีด, มินิบาร์, อาหารและเครื่องดื่มนอกเหนือรายการ
: ค่าหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) ,
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ,ค่าภาษีหัก
ณ ที่จ่าย 3-5%
หลักฐานการเดินทางและเอกสารวีซ่าส่งมอบให้ผู้ประสานงานอย่างช้าภายในวันที่ 1 ก.พ. 2556
หนังสือเดินทางอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1 ชุด
รูปถ่ายสี 2 นิ้ว X 2 นิ้ว ถ่ายหน้าตรง
พื้นหลังสีขาวจำนวน 3 ใบ สำเนาทะเบียนบ้านจำนวน 1 ชุด
การจองและการชำระเงิน มัดจำในวันจองท่านละ 10,000 บาท ภายในวันที่ 21 ธันวาคม 2555
Øที่เหลือชำระทั้งหมดก่อนเดินทาง 15 วัน ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556
ติดต่อได้ที่ Ø คุณจ๋า 084 525 8706
Ø คุณกลอย 086 779 0078 Ø คุณแป๋ม 081 988 5564
หมายเหตุ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทาง
หรือเปลี่ยนแปลงรายการส่วนหนึ่งส่วนใดตามความจำเป็นอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย เช่น
จากสายการบิน การยืนยันที่พัก เหตุการณ์ทางการเมือง สภาพอากาศเป็นต้น
กรณียกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง
-
กรุณาแจ้งให้
ทราบไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนเดินทาง จะคืนเงินให้ทั้งหมด
-
แจ้งภายใน 29
วันแต่ไม่น้อยกว่า 21 วัน ก่อนการเดินทางจะเก็บค่าใช้จ่ายท่านละ 10,000 บาท
-
แจ้งภายใน 20
วันแต่ไม่น้อยกว่า 10 วัน ก่อนการเดินทาง จะเก็บค่าใช้จ่าย 50 %
ของราคาทัวร์
-
แจ้งน้อยกว่า
10 วัน ก่อนการเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด
-
ระหว่างการเดินทางหากท่านไม่ได้ท่องเที่ยวพร้อมคณะหรือถอนตัวออกจากคณะถือว่าสละสิทธิ์
ไม่อาจเรียกร้องเงินหรือส่วนบริการที่ขาดไปได้
-
หากท่านถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองถือเป็นเหตุผลทางการเมืองและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศนั้นๆ
ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจและความรับผิดชอบของทางคณะจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด
-
ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย
เช่น การยกเลิกหรือล่าช้าของสายการบิน / ภัยธรรมชาติ / การจลาจล /
เหตุการณ์ทางการเมืองและของสูญหายตามสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของคณะฯ
-
กรณียกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว
ทางคณะฯขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูตฯ
เรื่อง วีซ่าของท่าน เพื่อให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานทูตฯ
เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศ
จะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของคณะฯ
-
คณะฯ
ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่ไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 15 ท่าน
และหรือ
ผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่สามารถผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ
15 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ ทางคณะฯ ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมดโดยหักค่าธรรมเนียมวีซ่า
หรือ จัดหาคณะทัวร์อื่นให้ ถ้าต้องการ
เอกสารในการทำวีซ่าอินเดียจำเป็นต้องขอข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากอินเดียเพิ่งเปลี่ยนแบบฟอร์มการขอวีซ่าใหม่ตั้งแต่
2 เม.ย.
55
เป็นต้นไป
1.
หนังสือเดินทางที่ยังมีอายุใช้ได้จนถึงวันเดินทางไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
2.
หนังสือเดินทางต้องมีหน้าว่าง สำหรับประทับตราเข้าออกอย่างน้อย 2 หน้าเต็ม
3. **สำคัญมาก* รูปถ่ายหน้าตรงรูปสี (ที่ไม่ใช่รูปถ่ายเล่นพื้นหลังสีขาวเท่านั้น)ขนาด 2 X 2 นิ้วเท่านั้น
ต้องเห็นใบหน้าชัดเจนและห้ามยิ้มเห็นฟัน และต้องไม่ใช่สติ๊กเกอร์
หรือรูปพริ้นซ์จากคอมพิวเตอร์ (รูปใหม่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) ถ้าไม่ถูกต้องไม่ต้องแนบมา
หากท่านไม่ได้รับการพิจารณาวีซ่าเนื่องจากรูปถ่ายไม่ได้ขนาดตามที่สถานทูตกำหนด
ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคาทัวร์
4. สำเนาบัตรประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
(พร้อมเขียนที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ)
6.
แจ้งที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้
พร้อมระบุรหัสไปรษณีย์และหมายเลขโทรศัพท์บ้านหรือมือถือ
7. ***สำคัญมาก*** กรุณาระบุอาชีพ เช่น
-
ถ้าเป็นพนักงานบริษัทเอกชนให้ระบุตำแหน่ง,ชื่อ/ที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์ของคณะฯที่ทำงานเป็นภาษาอังกฤษ
-
ถ้าเกษียณราชการแล้ว ให้ระบุชื่อหน่วยงานที่เคยสังกัด พร้อมที่อยู่ รหัสไปรษณีย์
หมายเลขโทรศัพท์
- ถ้าเป็นแม่บ้าน
ให้แจ้งอาชีพและสถานที่ทำงานของสามี
-
ถ้าประกอบธุรกิจส่วนตัวให้เขียนแจ้งที่อยู่พร้อมชื่อสถานที่ประกอบการ
-
ถ้าเป็นนักเรียน/นักศึกษา ให้แจ้งชื่อสถานศึกษา
-
ถ้าเป็นเด็กเล็ก ให้แจ้งสถานที่ทำงานของบิดา-มารดา
8. หากแต่งงานแล้ว
กรุณาแจ้งชื่อ-นามสกุลและสถานที่เกิด (ระบุจังหวัด) ของคู่สมรส
- หากเป็นผู้หญิงกรุณาแจ้งนามสกุลเดิมก่อนแต่งงาน
- กรณีคู่สมรสอย่าร้าง/เสียชีวิต ให้แจ้งว่าหย่าแล้ว หรือ เสียชีวิต
9. ***สำคัญมาก*** กรุณาแจ้งชื่อ-นามสกุลและสถานที่เกิด (ระบุจังหวัด)
ของบิดาและมารดา
10. กรุณาแจ้งวุฒิการศึกษาที่จบ เช่น มัธยมศึกษา
ม.6/ ปริญญาตรี/ปริญญาโท
เป็นต้น
11. กรุณาแจ้งลักษณะรูปพรรณที่เด่นชัดในร่างกาย
เช่น ผิวสีแทน ตาสีดำ เป็นต้น
12.
ถ้าเคยเดินทางเข้าอินเดียมาแล้ว กรุณาแจ้ง วัน/เดือน/ปี
ที่เดินทางออกจากอินเดียล่าสุด
หมายเหตุ การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง
จะเป็นผลดีกับผู้สมัครขอวีซ่าเอง ทางคณะฯจำเป็นต้องขอข้อมูลมากมายและยุ่งยากข้างต้นเพื่อทำให้วีซ่าอนุมัติโดยง่ายและไม่เสียเวลา
หรือเสี่ยงที่วีซ่าจะไม่อนุมัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น